อันซีนพญานาค 3 พิภพ มุกดาหาร โดย ออกไปเลาะ (บล็อกเกอร์)
อันซีนมุกดาหาร “พญานาค 3 พิภพ” ดินแดนแห่งศรัทธาที่สายมูเตลูไม่ควรพลาด
ผมเป็นคนหนองคาย ลูกลำน้ำโขง มีความเชื่อและศรัทธาในองค์พญานาคมาตั้งแต่เด็ก ระยะหลังก็มีโอกาสบ่อยครั้งที่ได้เดินทางมาเยือน จ.มุกดาหาร เมืองลุ่มน้ำโขงที่เป็นดินแดนแห่งศรัทธาพญานาคเช่นเดียวกัน แต่การมาหนนี้นั้นพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เนื่องจากตั้งใจมาสักการะ “พญานาค 3 พิภพ” ดิน-น้ำ-ฟ้า ที่สุดแห่งความอันซีนในภาคอีสาน และถูกยกให้เป็นหนึ่งใน Unseen New Series ของเมืองไทยอีกด้วย
พญานาค 3 พิภพคือประติมากรรมซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นรูปสักการะ ด้วยแนวคิดและวัตถุประสงค์ที่ต่างวาระและต่างรูปลักษณะ แถมยังอยู่กันคนละสถานที่ 3 องค์ 3 แห่ง รวมระยะทางกว่า 51 กิโลเมตร บนเส้นทางที่เลาะไปกับแม่น้ำโขง ถึงจะตั้งห่างกัน แต่กับมีความเชื่อมโยงถึงกันอย่างน่าอัศจรรย์ใจคือ พิกัดขององค์พญานาคทุกองค์มีตำแหน่งที่ตั้งอยู่บนแนวเส้นลองติจูดเดียวกัน
การเดินทางบนเส้นทางแห่งความศรัทธาสามพิภพของผม เริ่มต้นที่แรกบนฟากของฟ้า ‘พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช’ หรือพญานาคฟ้า (สวรรค์พิภพ) ภาพตรงหน้าที่ได้เห็นคือพญานาคองค์ใหญ่สีเขียวอมฟ้า ขดตัวยาวและชูลำคอสูงสง่า หันไปทางแม่น้ำโขง ราวกับมีชีวิต ด้วยขนาดลำตัวที่ยาวกว่า 122 เมตร และสูงประมาณ 20 เมตร ทำให้เด่นตะหง่านอยู่บนภูมโนรมย์ ท่ามกลางป่าไม้เขียวขจี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันในนามปู่ศรีมุกดา
พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาอันแรงกล้าที่อยากจะให้องค์พญานาคเป็นผู้อภิบาลพระใหญ่ฯ บนยอดเขาภูมโนรมย์แห่งนี้ ในเชิงสัญลักษณ์ยังซ่อนความเชื่อที่ว่า แม้แต่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ องค์พญานาคราชผู้ทรงฤทธิ์ยังเป็นองค์อภิบาลแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับใครที่ได้มาสักการะก็มักจะความเชื่อกันว่า จะช่วยดลบันดาลให้เกิดความ ‘เจริญรุ่งเรือง เติบโต เลื่อนตำแหน่ง’ ในหน้าที่การงานและชีวิต
จากเขาภูมโนรมย์ลงมา ผ่านกลางเมืองมุกดาหาร ไปตามถนนเลียบโขง พอให้เพลิดเพลินไปกับวิวสายน้ำ ไม่นานก็ถึงบริเวณทางลอดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จะพบกับพญานาคองค์ใหญ่พันรอบต้นเสาโดดเด่นอยู่ฝั่งแม่น้ำโขงนั่นคือ ‘พญาอนันตนาคราช’ หรือพญานาคน้ำ (บาดาลพิภพ) ผมได้ยิมตำนานกล่าวขานว่าเป็นราชาแห่งพญานาคทั้งปวง และเจ้าแห่งท้องสมุทร
บริเวณที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) พาดผ่าน เชื่อกันว่าเป็นปากถ้ำสู่เมืองบาดาล มีเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ระหว่างการก่อสร้างสะพานแห่งนี้มากมาย ต่อมาจึงได้มีการสร้างศาลพ่อปู่พญานาค อนันตนาคราช เพื่อประทานพรให้ชาวมุกดาหารและผู้ศรัทธาเกิดความสำเร็จ ‘ร่มเย็น ร่มรื่น ราบรื่น’ ทั้งรอบบริเวณยังมีจุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว และแม่น้ำโขงที่งดงาม เป็นที่นิยมกันมานั่งรับลมที่สุดจะชิวชิวอีกด้วย
เดินทางบนถนนเส้นเดียวกันจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ยาวไปจรดแก่งกระเบา เราจะพบกับที่ตั้งของอีกพิภพ พญานาคดิน (ปฐพีพิภพ) อยู่ตรงริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณที่เป็นแนวแก่งหินยาว โดยเป็นประติกรรมพญานาคองค์ใหญ่ ลำตัวสีขาวผุดผ่อง ในท่วงท่าเลื้อยโผล่พ้นขึ้นจากดินอย่างเด่นสง่า เปรียบดั่งดอกบัวโผล่พ้นน้ำ ซึ่งมีนามว่า ‘พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช’ โดยเป็นประติมากรรมที่เรียกว่ารูปแบบมกรคายนาค (มะกะระคายนาค)
มกรคือสัตว์หิมพานต์ ในตำนานความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เปรียบเป็นตัวแทนของกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง มกรคายนาคจึงเป็นปริศนาธรรมที่สื่อความหมายว่า แม้แต่องค์พญานาคราชยังสามารถต่อสู้จนหลุด
จากอบายมุขทั้งหลาย เอาชนะกิเลสในใจได้ด้วยการสร้างตะบะบำเพ็ญเพียร สั่งสมบุญบารมีโดยมีหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสรณ นอกจากนี้ใครที่ได้มาสักการะก็เชื่อว่าจะ ‘อุดมสมบูรณ์ มั่นคง มั่งคั่ง ร่ำรวย’
แก่งกะเบายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหย่อนใจสุดคลาสสิกของมุกดาหารอีกด้วย ในฤดูแล้งช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม แม่น้ำโขงจะลดระดับลงมาก สามารถมองเห็นเกาะแก่งอย่างชัดเจน เกิดหาดทรายสวย เหมาะกับการเดินถ่ายรูป หรือใครอยากจะแช่กายเล่นน้ำก็ได้ นอกจากนี้ยังมีลานนักษัตร 12 ราศี และลานวัฒนธรรม 8 ชนเผ่า พร้อมทิวทัศน์ฝั่งเมืองไชยบุรีของ สปป.ลาว
ถ้ามีโอกาสครั้งหน้า ผมอยากจะออกไปเลาะ มาเก็บภาพความสวยของเกาะแก่งแม่น้ำโขงตรงนี้อีกครั้ง นั่นอาจทำให้ได้ภาพบรรยากาศพญานาคองค์สีขาวในอีกมุมมองที่อันซีนต่างออกไป รวมทั้งชิมเมนูท้องถิ่นขึ้นชื่อ ซึ่งว่ากันว่า มาสักการะพญานาค 3 พิภพ ให้จบแบบอิ่มเอมสมบูรณ์ต้อง ไหว้พญานาคดิน กินหมูหันแก่งกะเบา ทุกอย่างจะง่ายดาย สำเร็จได้แบบหมูๆ ไหว้พญานาคน้ำ กินปลาแม่น้ำโขง จะพลิ้วราบรื่น และไหว้พญานาคฟ้า ทานเนื้อโคขุนหนองสูง จะสง่างามรุ่งเรือง นั่นเอง
สำหรับผู้ที่เดินทางมาสักการะพญานาค 3 พิภพ สามารถเตรียมเครื่องบวงสรวงมาเองได้ หรือบูชาได้ ณ จุดบริการ ทั้งวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 และแก่งกระเบา ได้ตามจิตศรัทธา
เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง
จ.มุกดาหาร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสามธรรม คือธรรมชาติ ธรรมะ และวัฒนธรรม การมาสักการะพญานาค 3 พิภพของผมในครั้งนี้ยังถือว่าได้สัมผัสกับทั้งสามธรรมอีกด้วย เนื่องจากใกล้เคียงกันยังมีสถานที่สำคัญ แลนมาร์กเด่นๆ และร้านอาหารพื้นถิ่นรสดี ให้ได้แวะ ได้เช็กอิน
Checklist
– วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์
– สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี วัดสองคอน มุกดาหาร
– ครัวเวียดนาม (แม่ยอ มุกดาหาร)
– Wansook Coffee
– เสริมสุข คาเฟ่’
– สะหวันสำราญ (Savan Sumran)
วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์
ไม่เพียงจะเป็นที่ตั้งของ ‘พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช’ แล้ว วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมณ์วัดแห่งนี้ ถือเป็นวัดที่มีคู่บ้านคู่เมืองของมุกดาหาร มีโบราณสถานและโบราณวัตถุสำคัญคือ พระธาตุภูมโนรมย์ พระอังคารเพ็ญ บันทึกการสร้างวัดจำนวน 1 แผ่นซึ่งติดอยู่หลังของพระอังคารเพ็ญ และรอยพระพุทธบาทจำลอง สร้างขึ้นจากหินทราย มีความกว้าง 80 เซนติเมตร ความยาว 1.8 เมตร โดย พระครูอุดมธรรมรักษ์ (หลวงตายอด) ทำการบูรณะบำรุงรักษาโบราณสถานดังกล่าว เมื่อปี 2525 เป็นต้นมา
นอกจากนี้ยังมี พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวผุดผ่อง โดดเด่นสง่างาม และสุขสงบ ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์ ซึ่งสามารถมองเห็นได้แต่ไกล ด้วยขนาดหน้าตัก 39.99 เมตร สูง 59.99 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดเศียร 84 เมตร อีกทั้งบริเวณวัดยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองมุกดาหาร แม่น้ำโขง สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 และแขวงสะหวันนะเขต จากมุมสูงได้อีกด้วยครับ
วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ เปิดทุกวัน เวลา 05.30 – 20.00 น. สำหรับผู้ที่ต้องการมาสักการะสิ่งสำคัญในวัด ตั้งแต่ เวลา 08.30 – 16.30 น. จะห้ามนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นวัด โดยสามารถใช้บริการรถสองแถวจากลานจอดรถ
สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี วัดสองคอน มุกดาหาร
ห่างจากแก่งกระเบาเพียง 3.5 กิโลเมตร มีโบสต์ที่งดงามและต่างจากที่ไหนๆ จนได้ชื่อว่าสวยที่สุดในอาเซียนมาแล้ว นั่นคือ ‘สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี วัดสองคอน มุกดาหาร’ ซึ่งภายในมีโบสต์คริสต์นิกายโรมันคาธอลิกหลังใหญ่ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึง บุญราศรีมรณสักขีทั้ง 7 ท่าน ที่ได้พลีชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อครั้งเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเมื่อปี 2532 ได้รับการประกาศให้เป็น บุญราศี (คำนำหน้าเพื่อยกย่องคริสชนที่เสียชีวิต) จากสมเด็จพระสันตปาปา ยอร์น ปอลที่ 2
ไม่เพียงจะเป็นสักการสถาน และที่ปฏิบัติศาสนกิจอันสำคัญแล้ว โบสต์แห่งนี้ยังมีรูปแบบสถานปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำโขง ภายในเป็นอาคารหลังใหญ่ประดัวยด้วยหินแดง ดูสงบและเรียบง่าย ภายในโบสต์เป็นกระจกใส ด้านหลังแท่นประกอบพิธีเป็นห้องโลงแก้ว 7 โลง บรรจุหุ่นขี้ผึ้งและอัฐิบุญราศีทั้ง 7 ท่าน โดยได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามฯ ปี 2539 และเป็นหนึ่งในสถานที่ Unseen Thailand II สัมผัสจริงเมืองไทย ในประเภทมุมมองใหม่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกด้วย
วัดบ้านสองคอน
เปิดให้เข้าชมและสักการะทุกวัน เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-17.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม ผู้เข้าชมควรสำรวมกิริยาและแต่งกายให้สุภาพ คริสตชนสามารถร่วมพิธีบูชามิสซาได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 07.00 น. โดยจะมีงานเฉลิมฉลองบุญราศรี คือวันที่ 22 ตุลาคม และวันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปี
ครัวเวียดนาม (แม่ยอ มุกดาหาร)
การเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ผมมักมองหาของกินอร่อยๆ ประจำจังหวัด ออกไปเลาะเที่ยวทั้งทีก็ต้องได้กินร้านเด่น ร้านดัง มามุกดาหาร เมืองที่เลื่องชื่อเรื่องอาหารเวียดนาม สำหรับมื้อเช้า มื้อเที่ยง ชวนแวะฝากท้องกับร้านครัวเวียดนาม (แม่ยอ มุกดาหาร) อยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งองค์ พญาอนันตนาคราช ร้านนี้เปิดตั้งแต่เช้าตรู่ สไตล์โฮมเมดเป็นสูตรดั้งเดิมของร้าน รสชาติไว้ใจได้ทุกเมนู แหนมเนือง เป็นพระเอกที่หมูย่างที่ปั้นมาแน่นๆ เต็มคำ ไข่กะทะ เป๊าะเปี๊ยะทอดกรอบ ต้มเลือดหมูก็รสชาติดี แนะนำว่าสั่งชุดเล็กมาจะได้ชิมหลายเมนู ประกันว่าเอาอยู่ท้องแบบอิ่มแปร้ พร้อมเดินทางต่อได้สบาย ร้านเปิดทุกวัน 06.00 – 16.30 น.
Wansook Coffee Mukdahan
คอกาแฟ สายสโลว์บาร์ ชวนมา Wansook Coffee Mukdahan บรรยากาศสบายๆ ใต้ร่มใหญ่ ใครสายกาแฟดริปไม่ควรพลาดเลยครับ มีเมล็ดกาแฟดริป ให้ได้ลองกันชิมกันกันหลายรูปแบบทั้งพันธุ์ไทยและต่างประเทศ ชอบตัวไหนมาเลือกชิมได้เลย หรือใครเป็นสายถ่ายภาพก็มีมุมเก๋ๆ ให้ snap หลากหลายมุม ทั้งสไตล์สวนสีเขียว กราฟิตี้บนกำแพงแนวๆ หรือในตัวร้านแบบลิฟวิงรูม ร้านเปิดบริการทุกวัน 09.00 – 17.00 น.
เสริมสุข คาเฟ่’
อีกร้านหนึ่งที่ควรแวะมาชิม มื้อสายมื้อเที่ยงกำลังดี มีของให้เลือกรับประทานหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่กาแฟ สมูตตี้ เบอร์เกอร์ กระทั่งก๋วยเตี๋ยวไก่ หมูตุ๋น รสเด็ด แถมราคาย่อมเยา ภายใต้บ้านไม้สีขาว บรรยากาศร้านนั่งสบายๆ สไตล์โคซี ลิฟวิง ประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจ มีมุมให้เลือกถ่ายรูปอย่างจุใจ กระซิบว่าถ้ามาเยือนมุกดาหาร ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน สอบถามที่ร้านได้ พร้อมให้คำปรึกษาอีกด้วย เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 22.00 น.
สะหวันสำราญ (Savan Sumran)
ตะวันคล้อยจรดพลบค่ำจะมีอะไรดีไปกว่าการนั่งชิวชิวกินบรรยากาศริมโขง มองวิวฝั่ง สปป.ลาว รับสายลมเย็นๆ พร้อมอาหารและเครื่องดื่ม ต้องที่นี่เลยครับ สะหวันสำราญ (Savan Sumran) เป็นร้านขึ้นชื่ออีกร้านของมุกดาหาร ที่รวมครบทุกหมวดหมู่ ทั้งร้านกาแฟ อาหาร และที่พัก แถมยังมีบาร์ค็อกเทล เหมาะที่จะมาได้ทุกโอกาสหรือเป็นวันพิเศษมานั่งสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือจะพาแฟนมาดินเนอร์ก็ฟินอยู่นะครับ ถ้าใครอยากพักไม่อยากมูฟตัวเองออกจากสถานที่สวยๆ ที่สะหวันสำราญมีห้องพักให้คุณได้ดื่มด่ำสัมผัสธรรมชาติแบบข้ามคืน พร้อมกับความเป็นส่วนตัวสุดๆ เพราะมีห้องพักแบบบูทีก เพียง 5 ห้อง 5 สไตล์ สนนราคาเริ่มต้นที่ 1,450 – 1,950 บาท
เมืองมุกดาหาร มาเที่ยวแล้วไม่มีผิดหวัง สมกับการเป็นหนึ่งในเดสทิเนชั่น Unseen New Series ใหม่ของเมืองไทยเลยครับ
เพจ : ออกไปเลาะ
Travel Festival
How in fell in love with nature
นราธิป กาเผือก
บล็อกเกอร์หนุ่มลูกอีสาน ผู้ชื่นชอบธรรมชาติ รักการถ่ายภาพ และการเดินทาง
ว่างเมื่อไหร่ต้องออกไปเลาะ ตามประสาหนุ่มนักเดินทางที่ชื่นชอบสไตล์วิถีแคมป์ปิ้ง ทุกเรื่องราวความประทับใจถูกถ่ายทอดผ่านภาพสวยที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก และความสุขในทุกครั้งที่เขาได้ออกเดินทาง
ออกไปเลาะ Out Go To Lolh
www.facebook.com/outgotololh