มหัศจรรย์ Unseen เกาะผ้า พังงา โดย สวรรค์ชั้น 6 (บล็อกเกอร์)
มหัศจรรย์ Unseen เกาะผ้า พังงา
ทะเลใส ฟ้าสีคราม มัลดีฟส์เมืองไทย
บางทีธรรมชาติก็เป็นเหมือนของขวัญล้ำค่าที่มอบความสุขเมื่อแรกเห็นให้เรารู้สึกหายเหนื่อยได้เป็นปลิดทิ้ง
เช่นเดียวกับการเดินทางมาที่นี่ ผมมีโอกาสมาสัมผัสความสวยงามของทะเลไทยที่ จ.พังงา อีกครั้ง แต่เปลี่ยนเป้าหมายจากหมู่เกาะสิมิลันมาที่ เกาะผ้า เกาะเล็กๆ กลางทะเลอันดามันที่แค่ได้เห็น เนินทรายขาวละเอียดที่อยู่ไกลลิบๆ ก็รู้แล้วว่า ต้องสวยไม่ธรรมดา สมกับที่เป็นหนึ่ง Unseen New Series ของเมืองไทย ที่ไม่ควรพลาดการมาเยือน
โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบทะเล ชอบท้องฟ้า ชอบน้ำทะเลสีฟ้าพราวเวลาโดนแสงแดดส่องกระทบผิวน้ำ ภาพทะเลที่ถ่ายออกมา ผมว่ามันสวย บริสุทธิ์ และเป็นธรรมชาติแทบไม่ต่างจากที่สายตาเราเห็นเลย
การได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบไร้หน้ากากอีกครั้งขณะนั่งเรือยนต์ของชาวบ้านออกจากท่าเรือบ้านน้ำเค็ม รับลมทะเลเย็นๆ กระทบผิว มีแสงแดดอุ่นๆ มองเบื้องหน้ามีแค่ฟ้า กับน้ำ และผืนทะเลนิ่งและเงียบสงบ ผมว่ามันสวยและน่าประทับใจจริงๆ
และเกาะผ้า ก็คือความมหัศจรรย์ของเกาะลับๆ กลางทะเลอันดามัน ที่ยืนยันคำเปรียบเปรยที่ว่านี่คือ มัลดีฟส์เมืองไทย คงไม่ผิดอะไร เพราะเกาะที่อยู่ตรงหน้าผม มีเนินหาดทรายขาวทอดตัวยาว เส้นขอบฟ้าตัดกับผืนทะเลสีฟ้าคราม และความมหัศจรรย์ของธรรมชาติช่างรังสรรค์ปั้นแต่งให้ผืนทรายขาวละเอียดกลางทะเลนั้นเป็นสันดอนทรายรูปทรงราวผืนผ้าสีขาวบางลอยอยู่กลางทะเล ยิ่งถ้าได้มองภาพผืนทรายกลางทะเลจากมุมสูงจะเห็นความสวยงามแปลกตาและความอัศจรรย์ของธรรมชาติในแต่ะวันที่ผืนทรายที่ขาวสะอาดราวกับผ้าขาวนั้นมีรูปทรงที่แตกต่างกันไป ซึ่งความสวยงามของเกาะผ้าจะขึ้นอยู่กับระดับน้ำขึ้นน้ำลง การเดินทางมาเที่ยวจึงควรต้องเช็คช่วงเวลาล่วงหน้าเพื่อจะได้ไปตรงกับช่วงเวลาที่ระดับน้ำลด โดยส่วนตัวแล้วการไปในช่วงสายถึงเที่ยงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่แสงจะตกกระทบ จนน้ำทะเลกลายเป็นสีฟ้ามรกตตามแบบฉบับของทะเลอันดามัน
สำหรับการเดินทางมาที่นี่ ต้องเหมาเรือหางยาวของชาวบ้าน กลุ่มท่องเที่ยวบ้านคอเขา กำนันเสน่ห์ 098-020-2742 หรือเลือกใช้บริการทัวร์แบบ 1 day trip จากบริษัททัวร์ ซึ่งโดยปกติมีบริการเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที
ถามข้อมูลจากกำนันเสน่ห์ ซึ่งเป็นคนบ้านคอเขา เล่าให้ผมฟังว่า ในอดีตบนเกาะผ้าจะมีต้นไม้ อย่าง ต้นสน ต้นมะพร้าว มากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ต้นไม้ก็เริ่มหายไป จากเกาะที่เคยมีต้นไม้น้อยใหญ่ก็กลายเป็นเกาะเล็กๆ ที่เงียบสงบ ไม่มีต้นไม้ บนเกาะส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน มากเลย
สำหรับกิจกรรมบนเกาะผ้านั้น ผมว่า ขึ้นอยู่กับไอเดียการสร้างสรรค์ของแต่ละคนเลยครับ เพราะที่นี่ไม่พลุกพล่านเหมาะกับการมาพักผ่อน ถ่ายรูป อาบแดด นอกจากนี้ยังมีจุดดำน้ำดูปะการัง ชมฝูงปลาแหวกว่ายที่ยังคงอุดมสมบูรณ์และสวยงาม
ถ้าชอบแนวนั่งชิว อารมณ์ปิกนิก รับลมชมทะเล แค่เตรียมผ้าปูผืนใหญ่ พกเซ็ทตะกร้าอาหารของว่าง เครื่องดื่มประเภท snack ไปทานเล่นก็ช่วยเสริมบรรยากาศ อิ่มท้องได้แบบเบาๆ แถมยังได้เพลินกับการถ่ายรูปสวยๆ อัพคอนเทนต์อวดเพื่อนในโซเชียลได้อีกด้วย
ใครที่เคยไปสิมิลันมาจนเบื่อ หรือไม่อยากจะออกเรือไปเกาะไกลๆ หมดเวลาไปทั้งวัน การเบนเข็มมาเกาะผ้าดูจะเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยม เพราะใช้เวลาในการมาเที่ยวเบ็ดเสร็จแค่ครึ่งวัน ไม่เกิน 4 ชั่วโมง เรียกว่าถ้าออกเรือสักเก้าโมง ยังไม่ถึงบ่ายโมงเท้าก็เหยียบพื้นกลับขึ้นฝั่งเขาหลักไปเที่ยวต่อที่อื่นได้แล้ว
การมาเกาะผ้าครั้งนี้ น้ำทะเลสีคราม สวยเกินความคาดหมาย … ผมว่า ที่นี่เป็น เกาะสวรรค์สำหรับคนรักทะเลอีกแห่งที่อยากเชิญชวนให้ทุกคนได้มาสัมผัสด้วยสายตาตัวเอง แล้วจะรู้ว่า ความใสของทะเลนั้นใสวิ๊งจริงๆ
กลับขึ้นฝั่งเลทมื้อเที่ยงไม่มากนัก การสรรหาร้านอาหารอร่อยๆ ได้อิ่มท้องเมนูปักษ์ใต้พื้นบ้าน กับร้านเด็ดที่มาเขาหลักทีไรก็ต้องแวะแบบพลาดไม่ได้ ที่ ครัวหลวงเทน (หร๊อยสุดในเมืองมนุษย์ ) เข้าว่าแบบนั้น เพราะเป็นร้านอาหารพื้นเมืองที่ได้รับคำชมจากแทบทุกสื่อที่มาเยือน รวมถึงการันตีความอร่อยด้วยการได้รางวัลมิชลินไกด์มาหลายปีติดต่อกัน ร้านนี้แค่รสชาติอาหารก็กินขาด ร้านตกแต่งธรรมดา ไม่มีวิวทะเล ไม่มีแอร์เย็นฉ่ำ มีแต่ความอร่อยเสิร์ฟมาแบบเต็มที่ ไม่ว่าเมนูไหนที่ยกเสิร์ฟมาก็อร่อยไปทั้งหมด
ความอร่อยแบบคงเส้นคงวาคงต้องยกนิ้วให้พ่อครัวใหญ่ พี่หลวงเทน ที่ปรุงแต่ละจานจากครัวด้วยตัวเอง และยึดหลักทำอาหารต้องใช้วัตถุดิบของดีมีคุณภาพ ถึงเครื่องความเข้มข้นเต็มไปด้วยรสชาติ ร้านนี้ไม่มีรับจองนะครับ เวลาเปิดปิดมี 2 รอบ คือ รอบเที่ยง แล้วพักเบรกบ่ายเพื่อเตรียมของแล้วเปิดใหม่ในรอบเย็น ใครมาช่วงวันหยุด เสาร์อาทิตย์ อาจต้องทำใจไว้ก่อนว่าต้องอดทนรอ ของอร่อยต้องใจเย็นๆ เพราะคิวยาวลูกค้าแน่นร้าน สำหรับเมนูอร่อยที่พลาดไม่ได้เลย
คือปลาทรายทอดขมิ้นที่ร้านใช้ปลาทรายตัวขนาดใหญ่พิเศษในการทำ และแกงเหลือง รสชาติเข้มข้น อร่อยเด็ด ใครทานเผ็ดได้ต้องมีความสุขกับจานนี้แน่นอน
ส่วนที่พักในครั้งนี้ ผมเลือกพักที่ พูลแมน เขาหลัก รีสอร์ท โรงแรมเชนขนาดใหญ่ที่พึ่งเปิดบริการไปได้ไม่นาน โรงแรมตั้งอยู่บนหาดบางม่วง อ.ตะกั่วป่า นำเสนอดีไซน์การออกแบบที่ผสมผสานวัฒนธรรมแบบชิโนโปรตุกีส เข้ามาที่นี่แล้ว ผมรู้สึกเหมือนตัวเองได้ใกล้ชิดอยู่กับเรื่องราวของงานศิลปะและหัตถกรรมพื้นบ้านที่สะท้อนเอกลักษณ์ของชาวตะกั่วป่า จ.พังงา ในแต่ละมุมแต่ละดีเทลของพื้นที่ภายในโรงแรม
และด้วยความที่เป็นโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ ห้องพักจึงมีหลากหลายประเภท ทั้งห้องดีลักซ์ ห้องแฟมิลี่ และวิลล่า รองรับได้ทุกกลุ่มผู้เข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือคู่รัก จุดเด่นคือสระว่ายน้ำตรงกลางที่ออกแบบได้อย่างลงตัวรวมทั้งการให้ความสำคัญกับเครื่องเล่น มีสไลเดอร์สำหรับคุณหนูๆ ไว้บริการ ขนาดห้องพักนั้นมีความกว้างขวาง และสวยงาม เป็นโรงแรมติดหาดที่ต้องไม่พลาดการมานั่งชิวชมพระอาทิตย์ตกน้ำริมทะเลหาดเขาหลัก หาดสวยของประเทศไทยที่ผมเชื่อว่า เป็นอีกหาดที่ชมซันเซ็ตได้งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
ถ้าการมาเที่ยวเขาหลักนั้นมีเวลาเหลืออีกวันเพื่อการได้ชมวิวซันเซ็ท ผมอยากแนะนำให้แวะมาร้านนี้ KARKINOS KHAOLAK
ร้านอาหารอิตาเลี่ยนและบาร์ริมทะเลสุดคูลที่ไม่ควรพลาด ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมอัปสรา บีชฟรอนท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า เพราะนอกจากจะได้ชื่นชมวิวซันเซ็ทบนหน้าหาดทรายกว้าง ผืนทรายขาวสะอาดแบบส่วนตัวแล้ว อาหารอิตาเลี่ยนสไตล์การันตีความอร่อย ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่า พาสต้า รวมถึงเครื่องดื่มคอกเทล มาอิ่มอร่อยชมวิวที่นี่แล้วยังสามารถเก็บภาพสวยๆ ของวิวซันเซ็ท และบรรยากาศร้านที่มาแล้วคงหยุดโพสต์อัพภาพสวยลงโซเชี่ยลไม่ได้แน่
การได้มาเที่ยวพังงาให้สนุกได้แบบครบรส เต็มไปด้วยความสุข ผมว่าการผสมผสานเรื่องราวการเดินทางโดยออกไปสัมผัสธรรมชาติความสวยงามของท้องทะเล คือ สิ่งที่คุณปฏิเสธไม่ได้เมื่อมาถึง จ. พังงา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของเมืองเก่าตะกั่วป่า อาหารทะเลสด อาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้รสชาติอร่อยเลิศ ความมหัศจรรย์ของผืนทรายขาวละเอียดบนเกาะผ้า หนึ่งในอันซีนนิว ซีรี่ส์บทใหม่ของเมืองไทยที่สวยสะกดใจ หรือการได้ใช้เวลาละเลียดความสุข นั่งมองวิวทะเลที่ชายหาดเขาหลัก ชมวิวซันเซ็ทสวยเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนสีเพื่อรอเริ่มวันใหม่อีกครั้ง ผมว่าตอนนี้เมืองไทยสวยขึ้นเยอะมาก การเที่ยวเมืองไทย มัน Amazing ยิ่งกว่าเดิมจริงๆ
สวรรค์ชั้นหก
สุวิชาญ พลิคามินทร์
ช่างภาพ บล็อกเกอร์ และนักเขียนอิสระ ผู้หลงไหลการออกเดินทางไปบันทึกภาพยังสถานที่ต่างๆหลากหลายทั่วโลก พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้แก่คนรอบข้างและผู้อ่านได้สนุกกับการเก็บกระเป๋าไปสัมผัสดินแดนในฝันของตัวเอง เพราะเชื่อว่าทุกการเดินทางล้วนมีเรื่องราวและความทรงจำที่งดงามเสมอ
สวรรค์ชั้นหก x traveling
www.facebook.com/thesixthfloorgallery
Instagram : thesixthfloor